วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2557
พัฒนาการการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย (ยุครัฐจารีต-พ.ศ.2511)
โดย อามีน ลอนา
ดาวน์โหลดได้ที่ http://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:104628

บทคัดย่อ

        งานวิจัยนี้มุ่งสำรวจพัฒนาการของการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทย ตั้งแต่ก่อนปีพ.ศ. 2475-2511 โดยสำรวจถึงงานนิพนธ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อิสลามที่ปรากฏอยู่ในหมู่ชนชั้นนำทางสังคมไทย ทั้งผู้นิพนธ์ที่เป็นมุสลิมและมิใช่มุสลิม และวิเคราะห์ถึงบริบททางสังคมในแต่ละยุคสมัย ที่ส่งผลต่องานเขียนในแต่ละช่วง
        การเขียนประวัติศาสตร์อิสลามในสังคมไทยสามารถแบ่งช่วงเวลาของการเขียนออกเป็น 3 ช่วง ซึ่งประกอบไปด้วย งานนิพนธ์เรื่องประวัติศาสตร์อิสลามจากยุครัฐจารีตหรือก่อนปฏิวัติปี พ.ศ. 2475, งานนิพนธ์ยุคหลังปฏิวัติปี พ.ศ. 2475 และงานนิพนธ์ยุคหลังปี พ.ศ. 2510
        จากพัฒนาการทั้งสามช่วงข้างต้น พบว่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์อิสลามที่ถูกเขียนขึ้น มุ่งเน้นไปยังประวัติศาสตร์อิสลามในยุคสมัยของท่านศาสดามุฮัมมัดเป็นหลัก โดยที่เนื้อเรื่องมีความเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปตามจุดประสงค์และบริบททางสังคมของแต่ละยุคสมัย งานนิพนธ์ในยุครัฐจารีตถูกเขียนขึ้นภายใต้บริบททางความคิดในเรื่องเวลา, ลักษณะของผู้นำ และศาสนาในหมู่ชนชั้นนำไทยที่เปลี่ยนแปลงไปจากวิทยาการของโลกตะวันตกที่เริ่มเข้าสู่สังคมไทย ประวัติศาสตร์อิสลามที่ถูกเขียนในช่วงนี้จึงสะท้อนทัศนคติของผู้นิพนธ์ที่ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ขณะที่งานนิพนธ์ในช่วงที่สองซึ่งเกิดขึ้นหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 ได้พัฒนาเนื้อเรื่องของประวัติศาสตร์อิสลามไปสู่เนื้อเรื่องที่เน้นความคิดแบบชาตินิยมมากขึ้น สอดรับกับบริบทในสังคมไทยขณะนั้นที่แนวคิดชาตินิยมกำลังเบ่งบาน อย่างไรก็ตามการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้งในทศวรรษ 2510 เมื่อผู้นิพนธ์ประวัติศาสตร์อิสลามในช่วงนี้พัฒนาเนื้อเรื่องของประวัติศาสตร์อิสลามได้กว้างขึ้นกว่าเดิม จากประวัติศาสตร์ที่เคยอิงเนื้อเรื่องของชนชาติและศาสนา มาเป็นประวัติศาสตร์อารยธรรมที่เสนอเรื่องราวของชนชาติต่างๆ ตลอดจนแง่มุมที่แปลกใหม่ขึ้น เช่น เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และพลวัตของอารยธรรมอิสลาม
        อย่างไรก็ตาม พัฒนาการของการเขียนประวัติศาสตร์อิสลามจากทั้งสามช่วง ล้วนถูกเขียนขึ้นจากกลุ่มผู้นิพนธ์ที่มิใช่มุสลิม งานเขียนเหล่านี้สร้างความไม่พอใจแก่สังคมมุสลิมไทย ในขณะเดียวกันความไม่พอใจดังกล่าวได้นำไปสู่การเขียนประวัติศาสตร์อิสลามจากฝ่ายมุสลิมไทยเพื่อตอบโต้กับเนื้อเรื่องที่ถูกเขียนขึ้นในงานนิพนธ์เหล่านั้น ด้วยกับโครงเรื่องชุดเดิมที่ดำเนินไปภายใต้การตีความประวัติศาสตร์ใหม่