วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2533
การเลือกสรรข้าราชการกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2491 - 2525
โดย ปิยะธิดา ลาภเกษร
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:118455
บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์เล่มนี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาถึงการเลือกสรรข้าราชการของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในระหว่างปี พ.ศ. 2491 - 2525 อันเป็นช่วงที่มีการก่อตั้งคณะรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยรามคำแหง ควบคู่ไปกับการศึกษากระบวนการผลิตนักปกครองของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยพิจารณาจากหลักสูตรการศึกษา เพื่อที่จะศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการผลิตนักปกครองกับการเลือกสรรข้าราชการว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่
ผลจากการศึกษาพบว่า การเลือกสรรข้าราชการกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยในระหว่างปี พ.ศ. 2491 จนถึงก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการศึกษา ในคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกเป็นสาขาวิชาต่างๆ ในปี พ.ศ. 2494 มีความสอดคล้องกับกระบวนการผลิตนักปกครองในสถาบันการศึกษาในระดับหนึ่ง อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างกรมการปกครองกับสถาบันการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นในด้านอาจารย์ผู้ส่อนหรือหลักสูตรการศึกษาที่มุ่งเน้นให้นิสิตนักศึกษาไปรับราชการในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเปรียบเสมือนหน่วยงานที่รองรับผู้สำเร็จการศึกษาด้านการปกครองโดยตรง ประกอบกับมาตรฐานในการเลือกสรรขณะนั้นยังไม่ได้นำวิธีการสอบคัดเลือกเข้ามาใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสิน หรือมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่นี้อย่างเป็นระบบในกระทรวงมหาดไทยแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ลักษณะของความไม่สอดคล้องระหว่างการเลือกสรรข้าราชการของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กับกระบวนการผลิตนักปกครองผ่านสถาบันอุดมศึกษาได้เริ่มปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 เริ่มจากการที่กรมการปกครองได้จัดตั้งหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการเลือกสรรข้าราชการโดยตรง คือ กองการเจ้าหน้าที่ (ซึ่งได้พัฒนามาเป็นกอง อัตรากำลังและส่งเสริมสมรรถภาพในเวลาต่อมา) เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยงานในการดำเนินการเลือกสรรข้าราชการ โดยประสานงานร่วมกับ ก.พ.ซึ่งเป็นหน่วยงานกลาง ทำหน้าที่ในการควบคุมให้การเลือกสรรบุคคลเข้ารับราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ขั้นตอนของการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก และวิชาที่ใช้ในการสอบตัดเลือก เพื่อให้ได้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งมากที่สุด ทำให้ความรู้ที่ได้รับจากสถาบันอุดมศึกษามิอาจเป็นหลักประกันในการเข้ารับราชการอีกต่อไป
ในส่วนของกระบวนการผลิตบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา ก็พบว่า มีความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน อันมีสาเหตุมาจากการเกิดสาขาวิชาใหม่ๆ ในคณะรัฐศาสตร์ เช่น บริหารรัฐกิจ ซึ่งเท่ากับเป็นการเสนอทางเลือกอื่นๆ ให้กับผู้สำเร็จการศึกษานอกเหนือไปจากการรับราชการ ตลอดจนบทบาทของอาจารย์ประจำในสถานศึกษาซึ่งทำให้การศึกษาในคณะรัฐศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป โดย มีลักษนะของความเป็นศาสตร์มากชั้น ประกอบกับการเกิดสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งถือกำเนิดในช่วงที่รัฐบาลกำลังพัฒนาการศึกษาให้กว้างขวางไปสู่ภูมิภาค (ปี 2506) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งจัดการศึกษาในลักษณะมหาวิทยาลัยเปิดในปี พ.ศ. 2514 ตลอดจนการจัดตั้งภาควิชารัชศาสตร์ในมหาวิทยาลัยอื่นๆ อาทิ ภาควิชารัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฯลฯ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้สภาพการสอบแข่งขันเพื่อเข้ารับราชการในกรมการปกตรองเป็นไปอย่างคึกคักยิ่งขึ้น จนทำให้ผู้สำเร็จการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่สามารถรักษาสถานภาพการเป็น “คนส่วนใหญ่” ในกรมการปกครองไว้ได้อีกต่อไป