วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2534
ประวัติศาสตร์นิพนธ์เรื่อง "เมืองนครปฐม"
โดย อารยะหญิง ศรัณพฤติ
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:114170

บทคัดย่อ

          งานเขียนเกี่ยวกับเรื่องเมืองนครปฐม ก่อนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวปรากฏในรูปของตำนาน พงศาวคาร นิราศ อันเป็นจารีตประวัติศาสตร์นิพนธ์แบบเก่า
          การเขียนอธิบายเกี่ยวกับเมืองนครปฐมเริ่มอย่างจริงจัง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเริ่มอธิบายความเป็นมาของพระปฐมเจดีย์ก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องเมืองนครปฐมนั้นมีความสำคัญเป็นอันดับรองในแง่เป็นสถานที่ประดิษฐานองค์พระปฐมเจดีย์เท่านั้น ผู้นำในการศึกษาค้นคว้าคือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงใช้วิธีการศึกษาค้นคว้าจากหลักฐานที่เป็นความจริงเชิงประจักษ์ พร้อมกับตีความด้วยพื้นความรู้ทางพระพุทธศาสนาที่พระองค์มีมา และนำเสนออย่างเป็นเหตุเป็นผล และข้อสรุปที่ได้คือ พระปฐมเจดีย์เป็นเจดีย์แรกตั้งพระพุทธศาสนา ซึ่งแนวข้อสรุปนี้ได้รับการสนับสนุนจากนักปราชญ์ร่วมสมัยกับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวคือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ และเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ วัตถุประสงค์ของการเขียนอธิบายเรื่องพระปฐมเจดีย์เช่นนี้ เพื่ออธิบายความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ของพระปฐมเจดีย์ ตลอดจนพระบุญญาธิการของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย
          หลังจากรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองนครปฐมได้รับความสนใจศึกษาต่อมา ทั้งจากนักวิชาการชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะเมืองนครปฐมเป็นแหล่งที่พบโบราณสถานโบราณวัตถุมากมาย อีกทั้งเป็นเมืองโบราณที่ถูกพบในช่วงเริ่มต้นของการศึกษาด้านโบราณคดีอีกด้วย จากการศึกษาค้นคว้า นับแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมา ได้มุ่งความสนใจศึกษามาที่การอธิบายประวัติและฐานะของเมืองนครปฐมมากกว่าการอธิบายองค์พระปฐมเจดีย์ ได้เกิดข้อสรุปเกี่ยวกับเมืองนครปฐมเพิ่มมากขึ้น อันเป็นทั้งข้อสรุปที่ขยายข้อสรุปเดิมคือเมืองนครปฐมเป็นราชธานีของสุวรรณภูมิอันเป็นดินแดนแรกตั้งพระพุทธศาสนา และยังเกิดข้อสรุปใหม่ ๆ คือ เมื่องนครปรมเป็นราชธานีของอาณาจักรทวารวดี และศิลปะที่พบบริเวณเมื่องนครปฐมส่วนใหญ่เป็นศิลปะสมัยทวารวดี ที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนาเถรวาท ที่สุดแล้วข้อสรุปเกี่ยวกับนครปฐมค่อนข้างจะได้รับการยอมรับในแง่ความเป็นเมืองราชธานีแห่งแรกของประวัติศาสตร์ไทย การเกิดข้อสรุปใหม่ ๆ ในช่วงนั้นนอกจากเป็นการใช้ระเบียบวิธีการทางประวัติศาสตร์ที่เริ่มเป็นระบบแล้ว ยังเกิดขึ้นจากการแสวงหาหลักฐานที่กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานทางด้านโบราณคดี อีกทั้งการตีความหลักฐานที่มุ่งเน้นหาความยิ่งใหญ่ ความเป็นศูนย์กลางของเมือง เพื่อสร้างภาพประวัติศาสตร์ที่ต่อเนื่อง มีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์แบบกระแสเดียวจากอดีตสู่ปัจจุบัน ซึ่งแนวคิดในการตีความเหล่านี้ล้วนอยู่บนพื้นฐานของการศึกษาประวัติศาสตร์ชาติ อันเป็นแนวคิดซึ่งเป็นที่นิยมกันในเวลานั้น เพื่อสร้างภาพประวัติศาสตร์ไทยให้ดูยิ่งใหญ่ เกรียงไกร สนองเจตนารมย์ของการสร้างความสามัคคีและความจงรักภักดีในชาติ
          ในช่วงเวลาหลัง พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา การศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องเมืองนครปฐมได้เกิดประเด็นใหม่ ๆ เช่น ไม่ได้สนใจนครปฐมในแง่ความเป็นราชธานีหรือศูนย์กลางอำนาจแห่งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกต่อไป แต่เป็นการพิจารณาศึกษาเมืองนครปฐมโดยตัวของมันเอง ซึ่งก็พบว่านครปฐมเป็นเมือง ๆ หนึ่งร่วมสมัยกับเมืองอื่น ทั้งนี้ประเด็นใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการรับวิชาการและแนวคิดจากโลกตะวันตกเข้ามาใช้ในวิธีการศึกษาประวัติศาสตร์ จึงทำให้เถิกความสนใจใช้หลักฐานที่หลากหลายให้รอบด้านมากขึ้น แนวการเขียนประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์เมืองนครปฐม คือแนวการเขียนประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ที่มุ่งศึกษาในเรื่องของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม ลักษณะของชุมชน และพัฒนาการของชุมชน