วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2534
ความคิดของผู้หญิงในนิตยสารผู้หญิง (พ.ศ.2500 - 2516)
โดย พิมพ์ฤทัย ชูแสงศรี
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:102808

บทคัดย่อ

          วิทยานิพนธ์เรื่อง “ความคิดของผู้หญิงในนิตยสารผู้หญิง พ.ศ. 2500-2516” นี้ มีจุดมุ่งหมายที่จะศึกษาถึงความคิดของผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้จัดทำและนักเขียนในนิตยสารในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2500 จนถึง พ.ศ. 2516 ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีความเปลี่ยนแปลงหลายประการเกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งส่งผลให้ทั้งนิตยสารผู้หญิง และความคิดของผู้หญิงกลุ่มที่ทำการศึกษาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
          จากการศึกษาพบว่า ความเปลี่ยนแปลงในแง่ของนิตยสารนั้น นิตยสารผู้หญิงซึ่งเคยเป็น "ปากเสียง" เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้หญิงในสมัยเริ่มแรก เริ่มมีผลประโยชน์ทางธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากขึ้น เนื่องมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ จากการใช้แบบพัฒนาเศรษฐกิจและการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในช่วงเวลานี้ และสภาพทางการเมืองแบบเผด็จการที่ไม่เอื้ออำนวยให้มีการแสดงออกทางปัญญามากนัก เนื้อหาของนิตยสารต่างๆ ในช่วงนั้น รวมทั้งนิตยสารผู้หญิงจึงเน้นไปที่เรื่องบันเทิงเริงรมย์ ตามความต้องการของตลาดเพื่อผลทางการค้า การแสดงความคิดเห็นมักจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง หรือครอบครัวมากกว่าที่จะแสดงบทบาทในการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมสำหรับผู้หญิง กลุ่มผู้จัดทำซึ่งเริ่มเป็นกลุ่ม "มืออาชีพ" ทั้งชายและหญิงที่รับจ้างเข้ามาเป็นผู้จัดทำ ทำให้ต้องสนใจในเรื่องของธุรกิจและการอยูรอดเป็นพิเศษ เรื่องที่ “ขายดี” ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ช่วยพัฒนาความคิดของผู้หญิงมากนัก
          อย่างไรก็ตาม มีการ เติบโตของกลุ่มนักเขียนหญิงในช่วงนี้อย่างน่าสนใจ กลุ่มนักเขียนหญิงเหล่านี้ ส่วนมากมาจากครอบครัวชนชั้นสูงหรือชนชั้นกลางระดับสูง ซึ่งส่วนมากจะมีการศึกษาดี นักเขียนหญิงกลุ่มดังกล่าวนี้มีทั้งกลุ่มอนุรักษ์นิยม และกลุ่มก้าวหน้า นักเขียนหญิงในกลุ่มอนุรักษ์นิยมมักจะเขียนเรือง "พาฝัน" และมีมุมมองของความสนใจในเรื่องรอบตัวค่อนข้างแคบ แต่นักเขียนหญิงกลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหญ่กว่านักเขียนหญิงกลุ่ม "ก้าวหน้า" ซึ่งเขียนเรื่องที่มีเนื้อหาหลากหลายนอกจากเรื่องของตัวผู้หญิงและครอบครัว ยังให้เนื้อหาเรื่องสังคมรอบตัวผู้หญิงอย่างมาก ซึ่งมิใช่นำเสนอแต่เนื้อหา แต่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ไว้ด้วย
          ความคิดของผู้หญิงซึ่งเป็นกลุ่มผู้จัดทำและกลุ่มผู้เขียนในนิตยสารผู้หญิงปรากฏในเรื่องใหญ่ ๆ 3 เรื่อง คือ ความคิดเกี่ยวกับตนเอง ความคิดเกี่ยวกับสังคม และความคิดเกี่ยวกับโลก
          ในส่วนที่เกี่ยวกับตนเองนั้น ผู้หญิงกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งยังคงติดอยู่กับกรอบความคิดแบบเก่า ๆ ในการมองบทบาทและหน้าที่ของตนเองในฐานะเมียและแม่ ในขณะที่นักเขียนหญิงกลุ่มก้าวหน้าเริ่มมองบทบาทของผู้หญิงนอกบ้าน และคิดว่าผู้หญิงแม้จะเป็นเพศที่มีความเข้มแข็ง อดทน แต่ก็สามารถพอยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตนเอง
          ส่วนสังคมในความคิดของผู้หญิงกลุ่มนี้ ยังให้ความสนใจในเรื่องของครอบครัวมากกว่าการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ผู้หญิงกลุ่มนี้ส่วนมากก็เริ่มเห็นว่า ผู้หญิงควรมีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้ชายได้เท่า ๆ กับที่เป็นฝ่ายถูกเลือก และในขณะพี่ผู้หญิงยังมีหน้าที่ต้องดูแลเอาใจใส่ผู้ชายอยู่ แต่ผู้หญิงก็เริ่มเรียกร้องให้ผู้ชายปฏิบัติต่อตนเองอย่าง “ให้เกียรติซึ่งกันและกัน” มากขึ้น ส่วนในเรื่องของการหย่าร้างอันเป็นปัญหาแตกหักของครอบครัวนั้น นักเขียนหญิงในกลุ่มก้าวหน้าบางคนเริ่มมีความคิดเห็นว่าอาจเป็นเรื่องที่เหมาะสมในบางกรณี
          ผู้หญิงกลุ่มนี้เริ่มให้ความสนใจในเรื่องของสังคมภายนอกมากขึ้น และต้องการให้ผู้หญิงก้าวไปมีบทบาทในการทำงาน การศึกษา และมีส่วนร่วมในสังคมในทุกๆ เรื่อง แม้แต่เรื่องการเมืองซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้หญิงกลุ่มนี้ยังไม่ค่อยสนใจมาก่อน แต่เมื่อได้มีโอกาสสูงขึ้น ทำให้ผู้หญิงกลุ่มนี้เรียนรู้ความเป็นไปของบ้านเมืองได้อย่างรวดเร็ว และแสดงออกมาในรูปของการวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาการเมือง
          สำหรับความคิดเกี่ยวกับโลกนั้น หมายถึง การคิดหาเหตุผลให้กับความเป็นไปของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และความคิดที่เกี่ยวกับพื้นฐานความเชื่อในสังคมไทย ซึ่งผู้หญิงกลุ่มนี้จะยังอยู่ในกรอบความเชื่อและการอธิบายเหตุผลในเรื่องทาง ๆ ด้วยบุญ-กรรม หรือความยึดมั่นในพุทธศาสนา ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ เรื่องของโชคชะตาราศี และการทำนายทายทัก หากความเชื่อในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นความเชื่อที่ค่อนข้างจะมีเหตุผล แม้มิใช่เหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ที่มีการค้นคว้าทดลองและพิสูจน์ก็ตาม แต่ก็เป็นความพยายามที่จะสังเกตุและคิดหาคำอธิบายให้กับความเชื่อต่าง ๆ มากขึ้น
          ความคิดของผู้หญิงซึ่งเป็นผู้จัดทำและนักเขียนในนิตยสารผู้หญิงในด้านต่างๆ เหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปจากพื้นฐานความคิดเดิมที่มีอยู่ในสังคมไหยในหลายประการ กล่าวคือ ผู้หญิงกลุ่มนี้ส่วนหนึ่ง เริ่มแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น กล้าคิด กล้าปฏิเสธในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง และให้ความสนใจในเรื่องสังคมภายนอกอย่างกว้างขวางขึ้น ถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นเพียงในเรื่องของรายละเอียด ขณะที่กรอบโครงในหลาย ๆ เรื่องยังคงเป็นกรอบเก่าอยู่ แต่ความเปลี่ยนแปลงที่ส่งประกายระยิบระยับในจุดเล็กจุดน้อย ก็เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าผู้หญิงกลุ่มนี้กำลังที่จะก้าวไปข้างหน้า โดยยืดถือของเก่าที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และรับเอาความคิดใหม่ ๆ ที่ดี ๆ เข้ามาสู่ตนเอง