วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2534
การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของภาคเหนือตอนล่างในช่วงปี พ.ศ. 2448-2484 
โดย สุภาพรรณ ขอผล
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:114691

บทคัดย่อ

          วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ เป็นการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของภาคเหนือตอนล่าง ภายหลังจากที่เส้นทางรถไฟสายเหนือได้เข้าไปสู่ภูมิภาคนี้ ในด้านการผลิตและการค้าโดยเริ่มศึกษาถึงสภาพเศรษฐกิจของภาคเหนือตอนล่าง ผู้ศึกษาได้วิเคราะห์ถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในภูมิภาคนี้ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง และวิเคราะห์บทบาทของรถไฟว่ามีส่วนมากน้อยเพียงใดในการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ได้ศึกษาถึงผลกระทบ ต่อสังคมของภาคเหนือตอนล่างด้วย
          ผลของการศึกษาพบว่า ก่อนหน้าที่เส้นทางรถไฟสายเหนือจะเข้าไปในภูมิภาคนี้ บริเวณภาคเหนือตอนล่างมีเศรษฐกิจแบบเลี้ยงตัวเอง ราษฎรส่วนใหญ่จะทำการเพาะปลูกข้าว ฝ้าย ยาสูบ พืชไร่ และพืชสวนต่าง ๆ ทำการประมง เพื่อนำมาบริโภคภายในครอบครัว ส่วนเกินที่เหลือจึงนำไปค้าขายแลกเปลี่ยนกับภูมิภาคใกล้เคียง นอกจากนี้ยังเก็บของป่าและทำป่าไม้เพื่อนำมาใช้สอยภายในครัวเรือนและเป็นส่วยส่งไปให้กับส่วนกลาง ส่วนเกินที่เหลือจึงนำไปซื้อขายแลกเปลี่ยน ส่วนในด้านการค้ามีฐานะเป็นศูนย์กลางการค้าแลกเปลี่ยน เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศอยู่กึ่งกลางระหว่างภาคเหนือตอนบนกับภาคกลาง และประเทศใกล้เคียง จึงมีการติดต่อค้าขายกับพม่า ลานนา หลวงพระบาง ยูนนาน และกรุงเทพฯ
          สภาพเศรษฐกิจภายในภูมิภาคนี้ได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่มีการเปิดประเทศ ทำการค้าเสรี การจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2437 และการดำเนินงานของข้าหลวงเทศาภิบาล มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านการผลิตและการค้าไปแล้วในระดับหนึ่ง ดังปรากฏว่า ในด้านการผลิตข้าว จากการศึกษาพบว่า นอกจากจะทำการผลิตเพื่อเลี้ยงตัวเอง ในบางพื้นที่ของภูมิภาคนี้ยังทำการผลิตเพื่อขายแล้ว โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากความต้องการข้าวในตลาดโลก ประกอบกับราคาข้าวที่สูงขึ้นเป็นแรงจูงใจให้ชาวนาผลิตข้าวเพื่อขายมากขึ้น ส่วนการผลิตยาสูบยังคงมีการผลิตเพื่อบริโภค และส่งส่วนเกินออกไปจำหน่ายเช่นเดิม แต่การเพาะปลูกฝ้ายลดลง เนื่องจากราษฎรหันไปใช้ผ้าและเส้นด้ายจากต่างประเทศ ในขณะที่การทำป่าไม้ได้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ส่วนความเป็นศูนย์กลางทางการค้ากับภูมิภาคใกล้เคียงยังคงคำรงอยู่ในลักษณะเดิมแต่มีความเจริญเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
          แต่อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังเห็นไม่ชัดเจนนัก จนกระทั่งเมื่อมีการตัดเส้นทางรถไฟสายเหนือเข้ามายังภูมิภาคนี้ ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคเหนือตอนล่างอย่างเห็นได้ชัด ดังปรากฏว่าในด้านการผลิตข้าว เมื่อรถไฟสายเหนือเข้ามาสู่ภูมิภาคนี้ มีผลทำให้การผลิตข้าวในภูมิภาคนี้เป็นไปเพื่อการค้ามากยิ่งขึ้น เพราะรถไฟทำให้คนเดินทางสะดวกรวดเร็วขึ้น ช่วยให้ผู้คนโยกย้ายถิ่นที่อยู่เข้ามาจับจองพื้นที่ที่ยังว่างเปล่า และ บุกเบิกพื้นที่เพาะปลูกได้มากยิ่งขึ้นประกอบกับการขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและทำได้ทุกฤดูกาล การผลิตข้าวเพื่อขายจึงขยายตัวเพิ่มมากชิ้น ในขณะที่พืชชนิดอื่น เช่น ฝ้ายและยาสูบ รถไฟนับได้ว่าเป็นสิ่งที่ช่วยนำผลผลิตไปสู่ตลาดมากขึ้นเช่นกัน
          สำหรับในด้านการค้า อาจกล่าวได้ว่า การเข้ามาของรถไฟสายเหนือทำให้การค้าขายภายในภูมิภาคนี้เปลี่ยนแปลงไป โดยในระยะแรกเมือรถไฟมาถึงความเป็นศูนย์กลางยังคงดำรงอยู่ และการค้าได้ขยายตัวมากขึ้นแต่เมื่อรถไฟไปถึงเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2464 ความเป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาคนี้ระหว่างลานนา ยูนนาน และพม่าหมดไป คงเหลือเพียงการค้ากับหลวงพระบาง โดยศูนย์กลางการค้าไปอยู่ที่กรุงเทพฯและเชียงใหม่แทน ทำให้บทบาทพ่อค้ากลุ่มต่าง ๆ อาทิ ฮ่อ พม่า และตองสู่ ในภูมิภาคนี้ค่อย ๆ ลดความสำคัญลง ในขณะที่พ่อค้าชาวจีนที่มาจากกรุงเทพฯได้ขึ้นมามีบทบาทในการเป็นพ่อค้าคนกลางมากขึ้น ในขณะเดียวกันที่ภาคเหนือตอนล่างเข้าไปมีความสัมพันธ์กับกรุงเทพฯมากขึ้น โดยความสัมพันธ์เป็นลักษณะของการพึ่งพาจนต่อมากลายเป็นเมืองบริวารที่ผลิตสินค้าที่กรุงเทพฯต้องการ
          การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ยังได้ส่งผลกระทบต่อสังคมของบริเวณภาคเหนือตอนล่างด้วย อาทิ ทำให้เกิดการขยายตัวและการเติบโตของชุมชนเมือง สภาพวิถีการดำรงชีวิตของราษฎรเปลี่ยนไป เกิดปัญหาการถือครองที่ดินภายในภูมิภาค เป็นต้น