วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2534
พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเรื่องบทบาทของ พระมหากษัตริย์ในสังคมสยาม : ศึกษาจากพระราชหัตถเลขาส่วนพระองค์
โดย ดวงดาว ยังสามารถ
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:113870

บทคัดย่อ

         วิทยานิพนธ์นี้มุ่งจะศึกษาพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับบทบาทของพระมหากษัตริย์ในสังคมสยาม โดยวิเคราะห์จากพระราชหัตถเลขาส่วนพระองค์ในช่วง พ.ศ. 2417-2453
         จากการศึกษาถึงบทบาทของพระมหากษัตริย์ในสังคมสยามเท่าที่ผ่านมา มักจะเสนอแนวคิดว่าพระมหากษัตริย์นั้นคือ สัญลักษณ์และผู้นำของประเทศ ที่ดำรงพระองค์อยู่ภายใต้กฎของศีลธรรมและหลักทศพิธราชธรรม แต่จากการวิเคราะห์ "ความ" ต่าง ๆ ในพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพบว่า สารัตถะต่าง ๆ ที่ปรากฏในพระราชหัตถเลขานั้นเป็นสารัตถะที่สามารถวิเคราะห์ได้ว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักดีว่าในฐานะที่ทรงดำรงตำแหน่งเป็นพระมหากษัตริย์ "ควรจะ" มีบทบาทอย่างไรและ "จะต้อง" มีบทบาทอย่างไร กล่าวคือจะต้องเป็นทั้งสัญลักษณ์ของประเทศพร้อม ๆ กับเป็นผู้นำประเทศ ที่จะต้องแยกแยะบทบาททั้งสองนี้ออกจากกัน เพราะการเป็นสัญลักษณ์ของประเทศนั้นเป็นการนำอุปนิสัยส่วนพระองค์ที่ดีตามมาตรฐานของสังคมมาเสนอสนองต่อสาธารณชนเพื่อก่อให้เกิดความศรัทธาและเชื่อมั่นอันจะนำมาซึ่งความจงรักภักดีและในขณะเดียวกัน การเป็นผู้นำที่ดีนั้นก็ต้องมีสมรรถภาพของนักปกครองที่ดี ซึ่งมิได้ตัดสินคุณงามความดีหรือเลวด้วยมาตรฐานความดีเลวทางศีลธรรม ด้วยเหตุที่ว่าการดำเนินกุศโลบายทางการเมืองนั้นไม่ควรถูกดำเนินการด้วยแนวโน้มของจริยธรรม เพราะความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากความมีจริยธรรมของพระมหากษัตริย์นี้อาจจะก่อให้เกิดความวิบัติแก่ชาติและประชาชนได้ ดังนั้นการเป็นผู้ปกครองที่ดีจึงต้องดำรงตนอยู่ในสองบทบาทแห่งการเป็นพระมหากษัตริย์ กล่าวคือ มีทั้ง "ภาพลักษณ์" และ "สมรรถภาพที่ดีเลิศ" ของผู้นำเพราะภาพลักษณ์จะเป็นสิ่งที่ปรากฏสู่สายตาประชาราษฎร์ อันจะก่อให้เกิดความศรัทธาและยินยอมที่จะ "เชื่อฟัง" พระบรมราโซบายต่าง ๆ ขององค์พระมหากษัตริย์ซึ่งจะเป็นหนทางที่จะทำให้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์จีรังยั่งยืน และเป็นขวากหนามขวางกั้นการ "ท้าทาย" อำนาจของผู้พยายาม "ท้าทาย" อำนาจของผู้ปกครอง ในขณะเดียวกันผู้นำก็จะต้องมีหลักการปกครองที่ดี เพราะในเชิงการเมืองแล้ว การปราศจากเล่ห์เหลียมและอุบายทางการเมืองย่อมไม่อาจนำพาความสำเร็จมาสู่ผู้ปกครองได้