วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2537
ประวัติศาสตร์ธุรกิจเพลงลูกทุ่งไทย พ.ศ.2507 - 2535
โดย ฉกาจ ราชบุรี
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:111007

บทคัดย่อ

       การศึกษาเรื่อง “ประวัติศาสตร์ธุรกิจเพลงลูกทุ่งไทย พ.ศ. 2507-2535” มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการทราบว่า เพลงไทยลูกทุ่งมีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีกระบวนการและปัจจัยอะไรบ้างที่นำเพลงลูกทุ่งออกสู่สาธารณชนและมีระบบธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไร
       จากการศึกษาพบว่า เพลงไทยลูกทุ่งเป็นเพลงไทยชนิดหนึ่งซึ่งพัฒนามาจากเพลงไทยสากล และได้แยกตัวเองออกมาในปี พ.ศ. 2507 และได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วประเทศโดยเฉพาะต่างจังหวัด จากความนิยมของประชาชนดังกล่าว ทำให้เพลงลูกทุ่งตกอยู่ภายใต้ระบบธุรกิจ ซึ่งสามารถแบ่งยุคระบบธุรกิจเพลงลูกทุ่งได้เป็น 3 ยุคดังนี้
       1. ช่วงระหว่าง พ.ศ. 2507-2511 พ.ศ. 2507 เป็นปีกำเนิดเพลงลูกทุ่งและ พ.ศ. 2511 เป็นปีที่วงการเพลงลูกทุ่งต้องสูญเสียราชาเพลงลูกทุ่ง สุรพล สมบัติเจริญ ระบบธุรกิจในยุคนี้แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท คือ
           1.1 ธุรกิจแผ่นเสียง นับเป็นธุรกิจที่สำคัญ เพราะเป็นธุรกิจที่ผลิตเพลงลูกทุ่งออกมาสู่สาธารณชนโดยมีสถานีวิทยุเป็นสื่อเผยแพร่ที่สำคัญ ธุรกิจแผ่นเสียงนอกจากจะตกอยู่กับนายทุนห้างแผ่นเสียงแล้ว ยังพบว่านักร้องและนักประพันธ์เพลงบางคน ก็ผลิตแผ่นเสียงออกจำหน่ายเองด้วย
           1.2 ธุรกิจวงดนตรีลูกทุ่ง นับเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อนักร้องเพลงลูกทุ่งมากที่สุด เพราะเป็นแหล่งรายได้ การทำวงดนตรีลูกทุ่งในระยะนี้ยังไม่ถูกแทรกแซงจากนายทุนนักร้องที่มีชื่อเสียงสามารถตั้งวงดนตรีออก เดินสายไปแสดงได้ทั่วประเทศ ธุรกิจวงดนตรีในยุคนี้เป็นธุรกิจแบบครอบครัวหรือครูกับศิษย์
       2. ช่วงระหว่าง พ.ศ. 2511-2520 ภายหลังการเสียชีวิตของ สุรพล สมบัติเจริญ ในปี พ.ศ. 2511 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากในระบบธุรกิจเพลงลูกทุ่ง แม้ระบบ ธุรกิจเพลงลูกทุ่งยังคงแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
           2.1 ธุรกิจแผ่นเสียง การเสียชีวิตของ สุรพล สมบัติเจริญ ส่งผลให้เกิดนักร้องลูกทุ่งใหม่ ๆ มากมาย ธุรกิจแผ่นเสียงมีการขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง นับจากช่วงกลางของยุคนี้ (พ.ศ. 2515) แผ่นเสียงมีการบลอมแปลงกันมาก ประกอบกับมีการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านเทบคาสเซท ซึ่งราคาถูก ง่าย และสะดวกในการใช้ จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระบบแผ่นเสียงเริ่มเสื่อมความนิยมลงไปเรื่อย ๆ
           2.2 ธุรกิจวงดนตรีลูกทุ่ง เนื่องจากในยุคนี้มีนักร้องเกิดขึ้นอย่างมากมาย จึงมีวงดนตรีลูกทุ่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ทาให้มีการแข่งขันสูง ระบบนายทุนจึงเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่ พ.ศ.2515 เป็นต้นไป ระบบธุรกิจวงดนตรีลูกทุ่งซึ่งเคยเป็นระบบธุรกิจแบบครอบครัวแบบครูกับศิษย์ก็เริ่มอ่อนตัวลง
       3. ช่วงระหว่าง พ.ศ. 2521-2535 จากการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านเทปคาสเซท การออกพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ในปี พ.ศ. 2521 และการขยายตัวของสังคมผู้บริโภค ส่งผลให้ระบบแผ่นเสียงเสื่อมความนิยมไป และระบบเทปคาสเซทได้รับความนิยมแทนที่ธุรกิจเพลงลูกทุ่งในยุคนี้แบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ
           3.1 ธุรกิจเทปคาสเซท เป็นระบบที่เข้ามาแทนที่ระบบแผ่นเสียง ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ ในระบบเทปคาสเซท ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงมือผู้บริโภคนั้น ตกอยู่กับนายทุนทั้งสิ้น ทั้งนี้เพราะระบบเทบคาสเซทเป็นระบบที่ผลิตจำนวนมาเพื่อขาย จึงมีการวางแผนการผลิตที่เป็นระบบทุกขั้นตอนและต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก และต้องการผลกาไรสูง
           3.2 ธุรกิจวงดนตรีลูกทุ่ง ในยุคนี้ธุรกิจวงดนตรีเป็นของนายทุนทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากว่า การตั้งวงดนตรีมีการแข่งขันสูง แต่ละวงจึงพัฒนาวงดนตรีของตัวเองในด้านต่างๆเช่น แสง สี เสียง และหางเครื่อง ทำให้นักร้องลูกทุ่งไม่มีเงินพอที่จะสามารถตั้งวงคนตรีได้ด้วย ตัวเอง ระบบวงดนตรีแบบครอบครัวเสื่อมสลายไประบบธุรกิจวงดนตรีแบบบริษัท เข้ามาแทนที่นักร้องมีหน้าที่แค่เพียงนักร้องรับจ้างเท่านั้น ในปี พ.ศ.2535 วงการเพลงลูกทุ่งไทยต้องสูญเสียราชินี้เพลงลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์ ส่งผลให้เพลงลูกทุ่งไทยได้รับความกระทบกระเทือนเป็นอันมากเพราะพุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นนักร้องลูกทุ่งในยุคนี้ที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนสูงสุดในประเทศ