สารนิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2541
บทบาทการโฆษณาชวนเชื่อของพรรคนาซีในเยอรมนี ระหว่าง ค.ศ. 1933-1945
โดย มลิสา ธนมิตรามณี
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:117855
บทคัดย่อ
ในระบอบการปกครองแบบเผด็จการของนาซี รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจในทุก ๆ ขั้นตอนของการบริหารประเทศและรัฐบาลถือเป็นผู้ชี้นำทางความคิดและการปฏิบัติต่อมวลชน ดังนั้นการโฆษณาชวนเชื่อจึงมีบทบาทอย่างมากต่อการปกครองของฮิตเลอร์ ใน ค.ศ. 1933 ฮิตเลอร์แต่งตั้งให้ ดร. โจเซฟ เกิบเบิลส์เป็นรัฐมนตรีกระทรวงโฆษณาการ ซึ่งเป็นกระทรวงที่ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในเยอรมนี หน้าที่หลักของกระทรวงนี้คือ ถ่ายทอดอุดมการณ์ของพรรคนาซีให้กับประชาชนและคอยควบคุมความคิดของประชาชนให้เป็นไปในทิศทางที่รัฐบาลต้องการ โดยอาศัยช่องทางการสื่อสารมวลชนทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศเป็นเครื่องมือ สื่อมวลชนทั้งวิทยุ, หนังสือพิมพ์ และภาพยนตร์ ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและต้องดำเนินงานไปตามคำสั่งของ รัฐมนตรีกระทรวงโฆษณาการ การโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลนาซีเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทำให้เราสามารถแบ่งบทบาทของการโฆษณาชวนเชื่อออกเป็น 3 ระยะคือ
ระยะแรกช่วง ค.ศ. 1933-1936 เป็นช่วงที่พรรคนาซีเริ่มเข้ามาเป็นรัฐบาล ดังนั้นฮิตเลอร์จึงต้องการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับรัฐบาลเผด็จการใหม่โดยทำให้ประชาชนเป็นหนึ่งเดียวกับพรรคและผู้นำ กระทรวงโฆษณาการจึงมีบทบาทในการถ่ายทอดอุดมการณ์ของพรรคนาซีสู่ประชาชน และสื่อมวลชนต้องพยายามส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความรักและศรัทธาในฮิตเลอร์
ระยะที่สอง ค.ศ. 1937-1940 เป็นช่วงที่ฮิตเลอร์ต้องการขยายดินแดนเข้ายึดครองประเทศใกล้เคียงในยุโรป ดังนั้นฮิตเลอร์และกระทรวงโฆษณาการจึงสั่งการให้สื่อมวลชนพยายามทำให้ประชาชนเยอรมันเกลียดชังและหันมาต่อต้านศัตรู รวมทั้งกระตุ้นให้มวลชนเกิดความเชื่อมั่นและนิยมระบบทหารเพื่อที่ประชาชนจะได้สนับสนุนนโยบายการทำสงครามเพื่อขยายดินแดนใน
ระยะที่ 3 ระหว่างช่วง ค.ศ. 1941-1945 เป็นเวลาที่เยอรมนีกำลังทำสงครามกับประเทศต่าง ๆ ในตอนต้นของสงครามเยอรมนีสามารถยึดครองประเทศต่าง ๆ เช่น นอรเว, เบลเยียม, ฝรั่งเศสได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เมื่อเยอรมนีขยายการรบเข้ารุกรานอังกฤษและสหภาพโซเวียตกลับมีผลทำให้สงครามเปลี่ยนไป กองทัพเยอรมนีต้องต่อสู้อย่างหนักในสมรภูมิรบเขตต่าง ๆ และภายในประเทศก็ถูกโจมตีทางอากาศจากกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร ในช่วงนี้ ดร. เกิบเบิลล์จึงดำเนินมาตรการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ในการต่อด้านศัตรู ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามรักษาความมั่นคงภายในประเทศด้วยการสร้างความใกล้ชิดระหว่างประชาชนและผู้นำประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น