วิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต ปี 2554
ผู้หญิงในกระบวนการยุติธรรมในสังคมไทยรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจนถึง พ.ศ. 2478: ศึกษาจากคดีความและฎีกา
โดย ภาวิณี บุนนาค
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:120852

บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษา การต่อสู้ของผู้หญิงในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิของผู้หญิง ในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวจนถึงพ.ศ. 2478 จากเอกสารคดีความและฎีกา ผลการศึกษาพบว่า การที่ผู้หญิงเข้าไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงทั้งทางการเมืองเศรษฐกิจสังคมไปสู่ความทันสมัย ที่มีผลทำให้ผู้หญิงเกิดมโนทัศน์ของความเป็นปัจเจก ดังนั้นเมื่อผู้หญิงต้องเข้าไปเผชิญกับสภาพปัญหาต่าง ๆ ในการดำรงชีวิตท่ามกลางสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลง ผู้หญิงจึงใช้ความเป็นปัจเจกมาต่อสู้ แต่หากว่าในช่วงระยะเวลาของการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย ได้เกิดความขัดแย้งทางมโนทัศน์ขึ้นใน สังคม ระหว่างมโนทัศน์ที่มีมาแต่สังคมจารีตคือ "มโนทัศน์อำนาจศักดินา" กับสำนึกที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาประเทศไทยเข้าสู่ความทันสมัยคือ "มโนทัศน์ปัจเจกชน" โดยมโนทัศน์แรกเป็นมโนทัศน์ที่ยอมรับ "ความไม่เท่าเทียม" ของคนในสังคม กล่าวคือ ในระดับสังคม ชนชั้นใต้ปกครอง ได้แก่ไพร่, ทาส ต้องอยู่ภายใต้อำนาจของชนชั้นผู้ปกครอง ได้แก่ พระมหากษัตริย์, เจ้านาย, ขุนนาง ชั้นสูง ในระดับครอบครัว ชนชั้นใต้ปกครอง ได้แก่ ลูกเมีย ก็ต้องอยู่ภายใต้อำนาจปกครองของ ผู้ปกครอง ได้แก่ พ่อบ้าน (ผู้ชาย) ภายใต้มโนทัศน์อำนาจศักดินา สิทธิจึงหมายถึงสิ่งที่ชนชั้นใต้ปกครองได้มาจากการยอมตกลงเป็นผู้อยู่ใต้อำนาจ ขณะที่สิทธิอำนาจเป็นอภิสิทธิ์ของชนชั้นปกครองในการได้รับและเอาประโยชน์จากชนชั้นใต้ปกครอง ส่วน "มโนทัศน์ปัจเจกชน" เป็นมโน ทัศน์ที่ยอมรับ "ความเท่าเทียม" ของคนในสังคม ภายใต้มโนทัศน์นี้ สิทธิจึงหมายถึงรูปแบบของ สิ่งที่ควรได้ ที่คน ๆ หนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งสามารถอ้างเอามาเป็นประโยชน์ของตนได้ จากความ ขัดแย้งที่เกิดขึ้น จึงมีผลให้การต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้หญิงในฐานะปัจเจกจึงยังถูกจำกัด