วิทยานิพนธ์ระดับปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ปี 2566
ประวัติศาสตร์มวยสากลอาชีพในสังคมไทย: พลวัตและอัตลักษณ์ภายใต้บริบทโลก (ค.ศ. 1929-1991)
โดย อภิเชษฐ กาญจนดิฐ
ดาวน์โหลดได้ที่ https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:311624

บทคัดย่อ

         การศึกษานี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยทางประวัติศาสตร์เพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลงของกีฬามวยสากลอาชีพในสังคมไทยภายใต้บริบททางการเมือง ธุรกิจและเทคโนโลยีสื่อสารที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศและระดับนานาชาติ และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติและวิถีปฏิบัติของกีฬามวยสากลอาชีพในสังคมไทยในเรื่องการเป็นอารยะโดยเฉพาะการควบคุมความรุนแรงการเป็นวิทยาศาสตร์และการเป็นวิชาชีพเพื่อทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของกีฬามวยสากลอาชีพในสังคมไทยในช่วง ค.ศ.1929-1991
         ผลการศึกษาพบว่ากีฬามวยสากลสมัยใหม่เกิดขึ้นในอังกฤษในราวคริสต์ศตวรรษที่ 18 อันเป็นช่วงเวลาที่ดินแดนดังกล่าวกำลังอยู่ในยุคสมัยใหม่จึงทำให้กีฬาชนิดนี้มีทัศนคติและวิถีปฏิบัติสำคัญที่มีรากฐานมาจากบริบทของสังคมอังกฤษในเวลาดังกล่าว คือ กระบวนการเป็นอารยะ การเป็นวิทยาศาสตร์และการเป็นวิชาชีพ ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงกับกระบวนการโลกาภิวัตน์ของกีฬา โดยเฉพาะบริบททางการเมือง ธุรกิจและเทคโนโลยีการสื่อสารซึ่งกระบวนการเหล่านี้นำกีฬามวยสากลอาชีพมาสู่สังคมไทยและเชื่อมโยงกีฬาชนิดนี้ในสังคมไทยกับเครือข่ายกีฬามวยสากลอาชีพระดับนานาชาติ ในการนี้มีคนสองกลุ่มซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อกันภายใต้ระบบอุปถัมภ์และมีบทบาทสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนทัศนคติและวิถีปฏิบัติ ตลอดจนขับเคลื่อนพลวัตและอัตลักษณ์ของกีฬา ชนิดนี้ให้มีรูปแบบที่เป็นลักษณะเฉพาะของสังคมไทย คือ กลุ่มคนที่มีวิชาชีพเกี่ยวข้องโดยตรงกับกีฬามวยสากลอาชีพ อาทิ นักมวยสากลอาชีพ ผู้ฝึกสอน เจ้าของค่ายมวย ผู้จัดการแข่งขันชกมวย สื่อมวลชนด้านกีฬากับกลุ่มคนที่มิได้มีวิชาชีพเกี่ยวข้องโดยตรงกีฬามวยสากลอาชีพ แต่มีอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและเกี่ยวข้องครอบงำอยู่เบื้องหลังกีฬามวยสากลอาชีพในสังคมไทย อาทิ กลุ่มชนชั้นนำ รัฐบาล กองทัพ นักการเมือง นักธุรกิจรายสำคัญ โดยที่คนกลุ่มแรกพยายามเชื่อมโยงกีฬามวยสากลอาชีพในสังคมไทยกับบริบทโลก รวมทั้งรักษาทัศนคติและวิถีปฏิบัติเรื่องกระบวนการเป็นอารยะ การเป็นวิทยาศาสตร์และการเป็นวิชาชีพสมัยใหม่ตามแนวทางที่ยึดถือกันในระดับนานาชาติ ขณะที่คนกลุ่มที่สองได้นำแนวคิด อุดมการณ์และแบบแผนปฏิบัติที่พวกเขายึดถือมาครอบงำทัศนคติและวิถีปฏิบัติของกีฬามวยสากลอาชีพในสังคมไทย ทั้งนี้แม้ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองกลุ่มนี้ทำให้กีฬามวยสากลอาชีพซึ่งเป็นกีฬาสมัยใหม่สามารถดำรงอยู่ได้โดยได้รับความนิยมอย่างสูงในสังคมไทย แต่ขณะเดียวกันกระบวนการเช่นนี้ก็ทำให้กีฬามวยสากลอาชีพในประเทศไทยมีพลวัตและอัตลักษณ์ที่แตกต่างจากลักษณะที่ปรากฏในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการลดทอนทัศนคติและวิถีปฏิบัติเรื่องกระบวนการเป็นอารยะ การเป็นวิทยาศาสตร์และการเป็นวิชาชีพสมัยใหม่ตามแนวทางของเครือข่ายกีฬามวยสากลอาชีพระดับนานาชาติ และทำให้กีฬาชนิดนี้ในสังคมไทยตกอยู่ภายใต้การครอบงำของระบบอุปถัมภ์ แบบแผนวิถีปฏิบัติและอุดมการณ์ของกลุ่มผู้ปกครองของสังคมไทย