โดย ชนิกานต์ หาญสุวาณิชย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การเดินทางของโมโมทาโร่และเหล่าผองเพื่อนสัตว์เพื่อไปปราบปีศาจร้ายที่คอยรังควานผู้คนได้กลายเป็นหนึ่งในตำนานที่โด่งดังเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่น โดยน้อยคนนักที่จะทราบว่าต้นกำเนิดของโมโมทาโร่หรือเด็กชายที่เกิดจากลูกท้อนั้นมาจากจังหวัดโอคายาม่า ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งในภูมิภาคคันไซและได้รับสมญานามว่า “ดินแดนแห่งแสงตะวัน” โดยภายในจังหวัดโอคายาม่ามีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์หลายแห่ง
ดิฉันได้รับโอกาสจากกองส่งเสริมการพัฒนาและสวัสดิการเด็ก เยาวชน และครอบครัว กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสาขาวิชาประวัติศาสตร์ โดยผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ JENESYS 2018 ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในหัวข้อ “26th Batch ASEAN + Timor-Leste Youth Leader Exchange” กลุ่มการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม ให้ได้มาศึกษาประวัติศาสตร์และสัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ณ สถานที่แห่งนี้
ดิฉันได้ใช้เวลาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 19-26 มีนาคม พ.ศ. 2562 เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 8 วัน โดยในช่วงสองวันแรกดิฉันและบรรดาเพื่อนๆ จากกลุ่มประเทศอาเซียนได้เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการรับฟังการบรรยายของผู้ทรงคุณวุฒิและเข้ารับการอบรมมารยาทพื้นฐานในการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ณ จังหวัดโตเกียว รวมถึงมีการแนะนำตัวเพื่อทำความรู้จักเพื่อนๆในกลุ่มจากประเทศต่างๆ ซึ่งจะต้องอยู่ด้วยกันกว่าหนึ่งอาทิตย์ และเมื่อสิ้นสุดการบรรยายแล้ว ผู้เข้าร่วมโครงการในกลุ่มการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม ทุกคนต้องเดินทางไปยังจังหวัดโอคายาม่าโดยรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น โดยใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมงจากโตเกียว พวกเราได้ไปเยี่ยมชมเขตเมืองเก่าและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ต่างๆ ในจังหวัดโอคายาม่า เช่น เมืองทามาชิม่า (Tamashima area) ซึ่งเป็นเขตท่าเรือที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีต สวนอนุรักษ์นกกระเรียน (Kibitsuru no sato: Home of crane) ซึ่งเป็นสัตว์หายากที่อยู่คู่กับประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานและมักปรากฏอยู่ในตำนานหรือนิยาย เขตอนุรักษ์คุราชิกิ บิคัง (Kurashiki Bikan historical quater) สวนโอคายาม่า โคราคุเอ็น (Okayama Korakuen Garden) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามและเป็นที่ตั้งของปราสาทโอคายาม่า โดยในสถานที่นี้ดิฉันได้เข้าร่วมเล่นเกมโทเซ็นเกียว (Tosenkyo: Japanese fan tossing game) เป็นหนึ่งในเกมโบราณที่มีมาตั้งแต่ในสมัยเอโดะ รวมถึงยังได้เดินทางไปยัง หลุมศพโบราณสึคุริยามะ (Tsukuriyama Ancient Tomb) และ ศาลเจ้าคิบิทสึ จินจา (Kibitsu Jinja Shrine)
นอกจากจะได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นแล้ว ดิฉันยังได้มีโอกาสเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวญี่ปุ่นทั้งจากการร่วมพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้เข้าร่วมโครงการและนักศึกษาชาวญี่ปุ่นมหาวิทยาลัยคิบิ รวมไปถึงการได้ลองใช้ชีวิตกับครอบครัวอุปถัมภ์ชาวญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 คืน ซึ่งดูแลดิฉันเป็นอย่างดีทำให้รู้สึกอบอุ่นเสมือนอยู่ “บ้าน”จริง ๆ
การที่ได้เข้าร่วมโครงการJENESYS นอกจากจะทำให้ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ดิฉันยังได้รับมิตรภาพดี ๆ ทั้งจากเพื่อนชาวไทย เพื่อนชาวญี่ปุ่น และเพื่อน ๆ จากประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมถึงยังได้เรียนรู้การอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยดิฉันต้องขอขอบคุณโครงการJENESYS กรมกิจการเด็กและเยาวชน และคณะอาจารย์ในคณะศิลปศาสตร์ สาขาประวัติศาสตร์ทุกท่านที่ทำให้ดิฉันได้รับประสบการณ์อันล้ำค่านี้
เพื่อนผู้เข้าร่วมโครงการชาวฟิลิปปินส์ ชาวไทยและชาวสิงคโปร์
เขตอนุรักษ์คุราชิกิ บิคัง