แรงงานเสรีในศตวรรษที่ 19: กรณีศึกษาลูกเรือชาวครู

(Free Wage Labourers in the Nineteenth Century: The Case of Kru Mariners)

โดย Jeff Gunn, York University, Canada

ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร. เชาวฤทธิ์ เชาว์แสงรัตน์

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ ห้อง ศศ. 307

สรุปโดย วิราวรรณ นฤปิติ

การนำเสนอหัวข้อนี้มาจากงานวิจัยระดับปริญญาเอก ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าอาณานิคมอังกฤษเหนือแรงงานพื้นเมืองในทวีปแอฟริกาในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคที่จักรวรรดินิยมเฟื่องฟูช่วงสุดท้ายก่อนการเกิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่ 1 และตามมาด้วยสงครามเพื่อการปลดปล่อยในอีกหลายภูมิภาค ชาวครู (Kru) เป็นชนเผ่าพื้นเมืองในทวีปแอฟริกา ลักษณะภูมิประเทศของที่อยู่อาศัยและที่ทำกินเป็นหมู่เกาะ ชาวครูไม่ได้ส่งผลผลิตทางการเกษตรที่จะสามารถสร้างผลกำไรแก่การค้าอาณานิคมได้มากนัก เมื่อเทียบกับประเทศที่อยู่ใต้อาณานิคมอื่น อาทิ เอเชียใต้ หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะการพึ่งพิงทางเศรษฐกิจระหว่างชนเผ่าพื้นเมืองกับเจ้าอาณานิคมผิวขาวจึงต้องปรับตัวเป็นการขายแรงงานเพื่อแลกกับค่าตอบแทน ทั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าเผ่าผู้ปกครองชนพื้นเมืองเดิมกับชาวครูและเจ้าอาณานิคมด้วย จากการที่ลูกเรือชาวครูเข้าสู่ระบบแรงงานเสรีมากขึ้นตามความต้องการของเจ้าอาณานิคม แม้ว่าจะเกิดการใช้กำลังและอาวุธเพื่อเป็นการบังคับบ้างก็ตามที แต่ก็แสดงให้เห็นว่าระบอบการปกครองดั้งเดิมของชนเผ่าเป็นไปอย่างหลวมๆ ไม่ได้มีลักษณะการรวมศูนย์อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ จึงไม่สามารถรวบรวมกำลังคนเพื่อต่อต้านได้ และการไม่มีทรัพยากรอย่างพรักพร้อมจึงไม่สามารถจัดหาอาวุธได้ เมื่อเผชิญกับอำนาจทางเศรษฐกิจของเจ้าอาณานิคม ในอีกด้านหนึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของสังคมชนเผ่าเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบเงินตราอย่างช้าๆ ด้วยเช่นกัน

รองเท้าในประวัติศาสตร์ไทย: จากสินค้าหรูหราในราชสำนักสู่ตลาดมวลชน

Dr Thomas Richard Bruce วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ดำเนินรายการและสรุปประเด็นโดย อ.ดร. วาสิฏฐี ชัยขันธ์

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้อง ศศ.307

ประเด็น: วิวัฒนาการของวัฒนธรรมการใส่รองเท้าและอุตสาหกรรมการผลิตรองเท้าในไทย 

การใส่รองเท้าเริ่มแพร่หลายในหมู่ชนชั้นสูงในช่วง หลังพ.ศ. 2398 หรือช่วงหลังสนธิสัญญาเบาว์ริ่งซึ่งสยามรับอิทธิพลจากตะวันตกมากขึ้น ต่อมาเมื่อมีการกำหนดการใส่เครื่องแบบของข้าราชการได้มีการกำหนดการใส่รองเท้าเอาไว้ด้วย การใส่รองเท้าเริ่มขยายออกไปสู่มวลชนมากขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 6  ด้วยเหตุผลสำคัญคือเพื่อป้องกันพยาธิปากขอ
เมื่อถึงสมัยจอมพลป. พิบูลสงครามในช่วงทศวรรษ 2480 รัฐบาลประกาศนโยบายรัฐนิยมให้คนใส่รองเท้า ดังนั้นการใส่รองเท้าจึงกลายเป็นข้อบังคับสำหรับประชาชน ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง อุตสาหกรรมการผลิตรองเท้าเจริญเติบโตขึ้นในประเทศ ประกอบกับรองเท้ามีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งรองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ คนจึงหันมาใส่รองเท้าอย่างแพร่หลายและกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำในการดำเนินชีวิตประจำวัน

การผลิตรองเท้าในสยามนั้น สันนิษฐานว่าเริ่มโดยกลุ่มชาวจีนแคะที่มีความเชี่ยวชาญในการฟอกหนัง นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนของมิชชันนารีที่ลำปางที่ฝึกหัดคนทำหนังเกิดขึ้นในช่วงต้นรัชกาลที่ 6 เมื่ออุตสาหรรมรองเท้าขยายตัวขึ้นอุตสากรรมโรงฟอกหนังก็เติบโตตามขึ้นมาด้วย เนื่องจากหนังเป็นวัสดุสำคัญที่ใช้ในการทำรองเท้า ต่อมามีการก่อตั้งโรงเรียนช่างหนังขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 2470 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำหนังซึ่งส่วนหนึ่งคือเพื่อผลิตรองเท้า ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองมีการนำเครื่องมือที่ช่วยในอุตสาหกรรมฟอกหนังและผลิตรองเท้าเข้ามาในประเทศไทยเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจรองเท้า บริษัทรองเท้าทั้งของต่างชาติและไทยได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เช่น บาจา นันยางและสหพัฒนพิบูล สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมรองเท้าประสบความสำเร็จอย่างมากควบคู่ไปกับความนิยมรองเท้าที่แพร่หลายมากในประเทศไทย

 

 

 

 

 

 

 

 

Page 15 of 16